ประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับกล้องโทรทัศน์วงจรปิด
(Privacy Notice – CCTV)
ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ (“ประกาศความเป็นส่วนตัว”) อธิบายถึงวิธีการที่บริษัทในกลุ่มแปซิฟิกา อันประกอบด้วย บริษัท แปซิฟิกา เอเลเมนท์ จำกัด, บริษัท แปซิฟิกา ไลฟ์สไตล์ จำกัด, บริษัท แปซิฟิกา แมกซ์ จำกัด, บริษัท แปซิฟิกา รีเทล จำกัด, บริษัท โปร พาร์ทเนอร์ จำกัด และ บริษัท ฟิตต์ คอสเมติกส์ จำกัด (ซึ่งต่อไปในประกาศนี้ เรียกว่า “บริษัทฯ” หรือ “บริษัทในเครือ” หรือ “เรา” หรือ “ของเรา”) ซึ่งได้ใช้อุปกรณ์กล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ในการเฝ้าดูแลพื้นที่ภายในและรอบ ๆ อาคารสถานที่เพื่อคุ้มครองชีวิต สุขภาพ และทรัพย์สิน บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า พนักงาน กรรมการ ผู้รับจ้าง ลูกจ้าง ผู้มาเยือน หรือบุคคลใด ๆ (เรียกรวมกันว่า “ท่าน”) ทั้งหมดที่เข้ามาในพื้นที่ที่มีการเฝ้าดูแล ทั้งภายในอาคารและบริเวณโดยรอบ ผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ประกาศฉบับนี้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการที่ บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และโอนข้อมูลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลได้ (หรือเรียกว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล”) ของท่าน บริษัทฯ อาจแก้ไขประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ได้ทุกเมื่อ และจะแจ้งให้ท่านทราบเมื่อมีการแก้ไขประกาศแล้ว ทั้งนี้ หากสามารถกระทำได้
- ข้อมูลที่เราเก็บรวบรวม
บริษัทฯ ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า พนักงาน ผู้เข้ามาติดต่อ ผู้เข้ามาในบริเวณที่มีการจัดตั้งกล้องวงจรปิดของบริษัทฯ ซึ่งในบางกรณี บริษัทฯ อาจจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนของท่าน (เช่น ข้อมูลการจดจำใบหน้าของท่าน) ทั้งนี้ ก็ต่อเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือเมื่อกฎหมายอนุญาตให้กระทำได้ โดยบริษัทฯ จะทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล อันได้แก่
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล | รายการข้อมูล |
ข้อมูลเกี่ยวกับการระบุและยืนยันตัวตน | o ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และเสียงของพนักงาน
o ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และเสียงของลูกค้า o ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และเสียงของผู้มาติดต่อ o ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และเสียงของผู้เข้าร่วมกิจกรรม o ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และเสียงของผู้อยู่ในบริเวณพื้นที่ที่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด o ลักษณะรูปพรรณสัณฐานของผู้อยู่ในบริเวณพื้นที่ที่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด o ภาพสิ่งของ เช่น ยานพาหนะของผู้อยู่ในบริเวณพื้นที่ที่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด
|
- วัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
2.1. บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย โอน และดำเนินการใด ๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะการบันทึก ถือครอง ปรับ เปลี่ยน แก้ไข ทำลาย ลบ กู้คืน รวม ทำสำเนำ ส่ง จัดเก็บ แยก ปรับปรุง หรือเพิ่มข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
ฐานทางกฎหมาย | วัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูล |
ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interest) | o เพื่อสอดส่องดูแลสุขภาพ และความปลอดภัย รวมถึงทรัพย์สินของท่าน
o เพื่อสอดส่องดูแลอาคาร สถานที่ และทรัพย์สินจากความเสียหาย ความขัดข้อง การทำลาย และจากอาชญากรรมอื่น ๆ o เพื่อสนับสนุนการระงับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการทางวินัยหรือกระบวนการร้องทุกข์ให้มีประสิทธิภาพ o เพื่อสนับสนุนในการสอบสวนหรือกระบวนพิจารณาที่เกี่ยวข้องกับการแจ้งเบาะแส o เพื่อสนับสนุนในการก่อตั้งสิทธิหรือยกขึ้นต่อสู้ในการดำเนินคดีทางแพ่ง ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะคดีแรงงาน และคดีอันเกี่ยวกับความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน o เพื่อใช้เป็นหลักฐาน กรณีที่มีสินค้าชำรุด/เสียหาย เพื่อนำมาดำเนินการขอคืนค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกัน สำหรับ งานทำประกันสินค้า |
ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) | o เพื่อสนับสนุนหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในการขัดขวาง ป้องกัน และตรวจจับอาชญากรรม รวมถึงการฟ้องร้องเมื่อเกิดอาชญากรรม
o เพื่อยืนยันตัวบุคคลและเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับ |
2.2. บริษัทฯ จะติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดในพื้นที่ที่เห็นได้ง่าย ซึ่งบริษัทฯ จะไม่ติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดในพื้นที่ที่ต้องคำนึงถึงความเป็นส่วนตัว อันได้แก่ ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ หรือพื้นที่อื่นที่กำหนดให้เป็นพื้นที่พักผ่อนสำหรับพนักงาน เว้นแต่พื้นที่พักผ่อนของพนักงานนั้น จะเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงอันต้องสอดส่องดูแลพนักงานเป็นพิเศษ เป็นต้น
2.3. กล้องโทรทัศน์วงจรปิดทำงานตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน และอาจจะมีการบันทึกเสียงด้วย
2.4. บริษัทฯ จะติดตั้งป้ายเพื่อแสดงให้ทราบว่า บริเวณดังกล่าวมีการติดติดตั้งกล้องเพื่อการบันทึกภาพ ที่จุดทางเข้าและทางออก และในพื้นที่ที่มีการสอดส่องดูแลโดยกล้องโทรทัศน์วงจรปิด เพื่อให้ท่านทราบว่าในบริเวณนั้นมีกล้องโทรทัศน์วงจรปิด
- ฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะไม่เก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ประมวลผล โอน และดำเนินการใด ๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ การบันทึก ถือครอง ปรับเปลี่ยน แก้ไข ทำลาย ลบ กู้คืน รวม ทำสำเนำ ส่ง จัดเก็บ แยก เปลี่ยน หรือเพิ่ม กับข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับท่านโดยไม่ได้รับความยินยอม ยกเว้นในกรณีต่อไปนี้
3.1 เพื่อรักษาประโยชน์อันจำเป็นต่อชีวิต เป็นการจำเป็นต่อการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
3.2 เพื่อประโยชน์อันชอบธรรม เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์อันชอบธรรมของบริษัทฯ ในการปกป้องคุ้มครองสุขภาพและความปลอดภัยของท่าน รวมถึงทรัพย์สินของท่าน อาคาร สถานที่ และทรัพย์สินของบริษัทฯ และกระทำการอื่นใดเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด บริษัทฯ จะพยายามสร้างความสมดุลระหว่างประโยชน์อันชอบธรรมของบริษัทฯ และของบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้อง แล้วแต่กรณี รวมถึงสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของท่านในการคุ้มครองข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่เกี่ยวข้องกับท่าน นอกจากนี้ บริษัทฯ จะใช้ความพยายามในการหาขั้นตอนวิธีการเพื่อให้ได้มาซึ่งสมดุลดังกล่าวตามความเหมาะสม
3.3 เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย บริษัทฯ มีหน้าที่ในการปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยและสภาพแวดล้อมการทำงาน บริษัทฯ เห็นว่าการใช้กล้องโทรทัศน์วงจรปิดเป็นมาตรการที่จำเป็นที่จะทำให้บริษัทฯ สามารถปฏิบัติตามหน้าที่ดังกล่าวได้
- บุคคลที่เราอาจเปิดเผย และ/หรือ โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
4.1. บริษัทฯ จะเก็บข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่เกี่ยวข้องกับท่านไว้เป็นความลับ และจะไม่เปิดเผยหรือโอนข้อมูลดังกล่าวให้แก่ผู้ใดที่เป็นบุคคลภายนอกที่บริษัทฯ คัดเลือกอย่างระมัดระวังทั้งในปัจจุบันและอนาคต ผู้ที่ได้รับสิทธิ หุ้นส่วนของกิจการร่วมค้า และ/หรือ ผู้ให้บริการ ซึ่งอาจอยู่ในต่างประเทศ เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่ระบุในประกาศนี้
4.2. บุคคลภายนอกที่บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับท่าน รวมถึง
4.2.1 บริษัทฯ อาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่เกี่ยวกับท่านให้แก่บริษัทอื่นในกลุ่มในเครือของเรา เพื่อประโยชน์อันชอบธรรมของบริษัทฯ ในการทำตามวัตถุประสงค์ในการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด
4.2.2 หน่วยงานรัฐ และ/หรือ หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่เกี่ยวกับท่านเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเพื่อสนับสนุนหรือช่วยเหลือหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายในการสอบสวนหรือดำเนินกระบวนการพิจารณาในคดีแพ่งหรืออาญา
4.2.3 ผู้ให้บริการจากภายนอก บริษัทฯ อาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่เกี่ยวกับท่านให้กับผู้ให้บริการจากภายนอก เช่น บริษัทประกันภัย เป็นต้น เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนที่จำเป็นในการปกป้องสุขภาพ ความปลอดภัย และทรัพย์สิน
- การโอนข้อมูลไปต่างประเทศ
5.1. บริษัทฯ อาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดไปยังผู้ให้บริการจากภายนอกที่อยู่นอกประเทศไทย เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนที่จำเป็นในการปกป้องสุขภาพ ความปลอดภัย และทรัพย์สินของท่าน การเปิดเผยหรือโอนข้อมูลดังกล่าวจะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับความยินยอมจากท่านเท่านั้น เว้นแต่จะมีฐานทางกฎหมายที่สำคัญอื่น ๆ (เช่น เพื่อปฏิบัติตามสัญญาระหว่างบริษัทฯ และบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของท่าน) ตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับกำหนด
5.2. หากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ถูกโอนไปยังประเทศปลายทางที่มาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลไม่เพียงพอตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทยได้กำหนดไว้ บริษัทฯ จะดำเนินการตามขั้นตอนที่จำเป็นในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่โอนไปยังบุคคลอื่นในต่างประเทศ เพื่อให้ข้อมูลนั้นได้รับการคุ้มครองในระดับเดียวกับที่บริษัทฯ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่บังคับใช้อยู่ในขณะนั้น และดำเนินการอื่นใดอันกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทยได้กำหนดไว้อย่างครบถ้วน
- ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดในระบบของบริษัทฯ เป็นระยะเวลาประมาณ 1 เดือน ตามขนาดความจุของแหล่งจัดเก็บข้อมูล ซึ่งจะมีการบันทึกทับข้อมูลเดิมเมื่อพื้นที่ในการเก็บข้อมูลเต็ม ทั้งนี้บริษัทฯ อาจทำการสำรองข้อมูล เพื่อจัดเก็บไว้ในระยะเวลาเท่าที่จำเป็น สำหรับการดำเนินการตามหน้าที่ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่ระบุในประกาศนี้ และเมื่อบริษัทฯ ไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายให้เก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดอีกต่อไป บริษัทฯ จะทำการลบข้อมูลออกจากระบบ และการบันทึกของบริษัทฯ โดยทันที
อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่มีการดำเนินการทางศาลหรือทางวินัย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดอาจถูกเก็บไว้จนกว่าจะสิ้นสุดการดำเนินการดังกล่าว รวมถึงระยะเวลาที่เป็นไปได้ในการยื่นอุทธรณ์ หลังจากนั้นข้อมูลจะถูกลบหรือเก็บถาวรตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับกำหนด
- สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านอาจใช้สิทธิต่อไปนี้ ตามกฎหมายและข้อยกเว้นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้
7.1 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูล
ท่านมีสิทธิเข้าถึงและขอรับสำเนำของข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่เกี่ยวกับท่าน หรือขอให้บริษัทฯ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่บริษัทฯ ได้มาโดยไม่ได้รับความยินยอม โดยจะต้องส่งคำขอเป็นหนังสือไปยังคณะทำงาน PDPA บริษัทฯ จะดำเนินการกับคำขอของท่านภายใน 30 วันนับจากวันที่บริษัทฯ ได้รับคำขอของท่าน บริษัทฯ อาจปฏิเสธคำขอของท่านตามสิทธิตามกฎหมายของบริษัทฯ หรือตามคำสั่งศาล และหากการเข้าถึงและคำขอสำเนำข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่เกี่ยวกับท่านอาจกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่น หากบริษัทฯ ตัดสินว่าต้องปฏิเสธคำขอของท่าน บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบเป็นลายลักษณ์อักษรพร้อมเหตุผล และส่งหนังสือดังกล่าวให้ท่านภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
7.2 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยเกี่ยวกับท่าน ที่ไม่สมบูรณ์ ไม่ถูกต้อง ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือไม่เป็นปัจจุบัน
7.3 สิทธิในการคัดค้าน
ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดหากเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์เรื่องประโยชน์อันชอบธรรมของบริษัทฯ และ/หรือ ของบุคคลอื่น บริษัทฯ จะดำเนินการพิจารณาคำขอของท่านโดยเร็วที่สุดทันทีที่ได้รับคำขอ บริษัทฯ อาจปฏิเสธคำขอของท่านหากบริษัทฯ สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญมากกว่าในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด หรือการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยดังกล่าวเป็นไปเพื่อ การก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือปฏิบัติตามกฎหมาย หากบริษัทฯ ตัดสินใจว่าจะปฏิเสธคำขอของท่าน เรา จะแจ้งให้ท่านทราบเป็นลายลักษณ์อักษรพร้อมเหตุผล และจะส่งหนังสือดังกล่าวให้แก่ท่านภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
7.4 สิทธิในการถอนความยินยอม
ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัทฯ เพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดได้ทุกเมื่อ
7.5 สิทธิในการลบหรือทำลายข้อมูล หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเป็นข้อมูลนิรนาม
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ตามขอบเขตที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้ เว้นแต่กรณีที่บริษัทฯ อาจต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดตามที่กฎหมายกำหนด เช่น การก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย
7.6 สิทธิในการโอนย้ายข้อมูล
ท่านมีสิทธิที่จะได้รับข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่บริษัทฯ ครอบครองอยู่ ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ และส่งข้อมูลดังกล่าวให้กับผู้ควบคุมข้อมูลอื่น โดยที่ข้อมูลนั้นจะต้องเป็น (ก) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ไว้แก่บริษัทฯ และ (ข) ข้อมูลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยบนฐานความยินยอมของท่าน
7.7 สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลชั่วคราว
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดเป็นการชั่วคราวในส่วนที่บริษัทฯ ไม่มีสิทธิเก็บรักษาไว้แล้ว หรือเมื่อท่านจำเป็นต้องใช้ข้อมูลนั้นในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย
7.8 สิทธิในการร้องเรียน
ท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนเกี่ยวกับบริษัทฯ ให้แก่หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องหากบริษัทฯ ละเมิดหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่บังคับใช้ในประเทศไทย รวมถึงประกาศและข้อบังคับอื่น ๆ
เว้นแต่การขอใช้สิทธิร้องเรียนการดำเนินงานตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเราและเป็นการร้องเรียนโดยตรงกับเรา เราขอสงวนสิทธิ์ที่จะเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพื่อเป็นค่าธรรมเนียมในการดำเนินการตามคำร้องขอใช้สิทธิจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลประการอื่น ทั้งนี้ตามที่เหมาะสม แต่เราจะแจ้งให้ท่านทราบโดยชัดแจ้งว่าการร้องขอใช้สิทธิในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านรายการใดที่อาจจะต้องชำระค่าใช้จ่ายเช่นว่านั้น
- แนวทางพื้นฐานในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
เรามีการใช้มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยภายในบริษัทฯ และบังคับใช้มาตรการเช่นนั้นอย่างเข้มงวดในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ปลอดภัย ซึ่งรวมถึงการเข้ารหัสข้อมูล (Encryption) และมาตรการป้องกันการเข้าถึงข้อมูลโดยวิธีการอื่น พร้อมกับกำหนดให้บุคลากรของบริษัทฯ และผู้รับจ้างภายนอกจะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานที่เหมาะสม รวมถึงการพิจารณาจัดให้มีการดูแลรักษาข้อมูลและมีมาตรการที่เหมาะสมในการใช้หรือการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
- การเก็บและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์เดิม
บริษัทฯ มีสิทธิในการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมไว้ก่อนวันที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ ตามวัตถุประสงค์เดิมต่อไป หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้บริษัทฯ เก็บรวมรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อไป ท่านสามารถแจ้งบริษัทฯ เพื่อขอถอนความยินยอมของท่านเมื่อใดก็ได้
- การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ มีการใช้มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลและมาตรการอื่นตามที่กฎหมายกำหนด และบังคับมาตรการเช่นนั้นกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อันรวมถึงการเข้ารหัสข้อมูล และมาตรการป้องกันการเข้าถึงข้อมูโดยวิธีการอื่น พร้อมกับกำหนดให้บุคลากรของบริษัทฯ และผู้รับจ้างภายนอกจะต้องปฏิบัติตามมาตรฐาน นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและประกาศความเป็นส่วนตัวที่เหมาะสม รวมถึงจะต้องจัดให้มีการดูแลรักษาข้อมูลและมีมาตรการที่เหมาะสมในการใช้หรือการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
- การเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัว
เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ อาจมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงในแต่ละคราว โดยบริษัทฯ จะแสดงฉบับที่เป็นปัจจุบันไว้บนเว็บไซต์ของบริษัทฯ
- การติดต่อเรา
หากท่านมีคำถาม ข้อสงสัย หรือมีความประสงค์ที่จะใช้สิทธิของท่านที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โปรดติดต่อเราได้ที่
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
2032 อาคารอิตัลไทยทาวเวอร์ ชั้น 5 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ
เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310
E-Mail : dpo@pacifica.co.th
หมายเลขโทรศัพท์ : 02-0349770-97