ประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับพนักงาน และบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง
(Privacy Notice – Employee and Related Persons)

บริษัทในกลุ่มแปซิฟิกาอันประกอบด้วย บริษัท แปซิฟิกา เอเลเมนท์ จำกัด, บริษัท แปซิฟิกา ไลฟ์สไตล์ จำกัด, บริษัท แปซิฟิกา แมกซ์ จำกัด, บริษัท แปซิฟิกา รีเทล จำกัด, บริษัท โปร พาร์ทเนอร์ จำกัด และ บริษัท ฟิตต์ คอสเมติกส์ จำกัด   (ซึ่งต่อไปในประกาศนี้ เรียกว่า “บริษัทฯ” หรือ “บริษัทในเครือ”  หรือ “เรา” หรือ “ของเรา”) ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน ตลอดจนบุคคลในครอบครัวของพนักงาน หรือบุคคลอื่นซึ่งพนักงานได้ให้ข้อมูลไว้กับเรา  และเพื่อให้มั่นใจได้ว่า บริษัทฯ จะให้ความคุ้มครองและปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยสอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ จึงได้กำหนดแบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ท่านทราบรายละเอียดการดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าจะเป็นการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย (ต่อไปเรียกว่า “การประมวลผลข้อมูล” หรือ “การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล”)  ซึ่งอาจเกิดขึ้น ตลอดจนแจ้งให้ท่านทราบถึงสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และช่องทางการติดต่อเรา ดังต่อไปนี้

  1. ความหมาย

“พนักงาน” หมายถึง พนักงานตามความหมายตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของบริษัทฯ

“บุคคลที่เกี่ยวข้อง” หมายถึง บุคคลในครอบครัวของพนักงาน หรือบุคคลอื่นซึ่งพนักงานได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลไว้กับบริษัทฯ อันได้แก่ บุคคลอ้างอิง บุคคลค้ำประกัน (ถ้ามี)

“ข้อมูลส่วนบุคคลแบบอ่อนไหว (Sensitive Data)” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายกำหนดเป็นการเฉพาะ ซึ่งบริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวต่อเมื่อบริษัทฯ ได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากพนักงาน หรือในกรณีที่บริษัทฯ มีความจำเป็นตามกรณีที่กฎหมายอนุญาต ทั้งนี้ บริษัทฯ อาจต้องเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับศาสนา ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลชีวภาพ เป็นต้น

“การประมวลผลข้อมูล” หมายถึง การดำเนินการใดๆ ของบริษัทฯ ต่อข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานและบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการเก็บรวบรวม บันทึก การทำสำเนา การจัดระเบียบ การเก็บรักษา การปรับปรุง แก้ไข เปลี่ยนแปลง การใช้ กู้คืน เปิดเผย การส่งต่อ โอน เผยแพร่ การรวม การลบ ทำลาย ไม่ว่าจะอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างประกอบกัน

  1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราจัดเก็บ

บริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานตามรายละเอียดข้อมูลด้านล่างนี้ ซึ่งหากพนักงานไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจะส่งผลกระทบให้บริษัทฯ ไม่สามารถปฏิบัติให้เป็นไปตามสัญญาจ้างงาน เงื่อนไขการสมัครงาน กฎหมายแรงงาน และ/หรือกฎหมายอื่นใดที่เกี่ยวข้องได้ อาจจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานในรูปแบบต่างๆ เช่น รูปแบบเอกสาร หรืออิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ หากพนักงานปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องใช้เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญาหรือเพื่อเข้าทำสัญญาแก่เรา อาจทำให้การปฏิบัติงานตามสัญญาและสิทธิในการเข้าถึงสวัสดิการหรือบริการที่เราจัดไว้ ไม่สามารถดำเนินการได้อย่างสมบูรณ์  ดังนี้

2.1 ข้อมูลส่วนบุคคลแบบทั่วไป

เราเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลแบบทั่วไปของท่านได้แก่

(1) ข้อมูลและเอกสารที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสรรหาพนักงาน เช่น ประวัติส่วนบุคคล (Resume / Curriculum Vitae หรือCV) ข้อมูลที่ปรากฎในจดหมายสมัครงาน ใบสมัครงาน ความเห็นประกอบการสรรหาพนักงาน

(2) ข้อมูลในการติดต่อกับพนักงาน เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล์แอดเดรส ไลน์ไอดี ข้อมูลโซเชียลมีเดีย

(3) ข้อมูลเกี่ยวกับตัวของพนักงาน เช่น วันเดือนปีเกิด อายุ เพศ สถานะการสมรส ความสนใจ ความคิดเห็น

(4) ข้อมูลเกี่ยวกับสมาชิกครอบครัวหรือผู้อยู่ในความดูแลของพนักงานที่มีสิทธิได้รับสวัสดิการตามข้อบังคับและระเบียบการบริหารงานบุคคลของบริษัท เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับคู่สมรส ข้อมูลเกี่ยวกับบุตร ข้อมูลเกี่ยวกับบิดามารดา ผู้รับผลประโยชน์ ทั้งนี้ ก่อนการให้ข้อมูลกับเรา ให้พนักงานแจ้งนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ให้บุคคลดังกล่าวทราบด้วย

(5) รูปถ่ายและภาพเคลื่อนไหว

(6) ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษา ความสามารถ และการพัฒนาศักยภาพ และคุณสมบัติอื่น ๆ ของพนักงาน เช่น ระดับการศึกษา วุฒิการศึกษา สถาบัน/มหาวิทยาลัย ประวัติการศึกษา ประวัติการฝึกอบรม ผลการศึกษา ผลการทดสอบ สิทธิในการทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย คุณสมบัติด้านวิชาชีพ ความสามารถทางด้านภาษา และความสามารถอื่น ๆ ข้อมูลจากการอ้างอิงที่พนักงานได้ให้แก่เรา

(7) ข้อมูลเกี่ยวกับประสบการณ์ทำงานและข้อมูลเกี่ยวกับการจ้างงานในอดีต เช่น ตำแหน่งงาน รายละเอียดของนายจ้าง เงินเดือนและค่าตอบแทน สวัสดิการที่ได้รับ

(8) ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ที่สามารถปฏิบัติงานได้

(9) ข้อมูลเกี่ยวกับภาระทางทหาร

(10) ข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะของพนักงาน เช่น นิสัย พฤติกรรม ทัศนคติ ความถนัด ทักษะ ภาวะความเป็นผู้นำ ความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น ความฉลาดทางอารมณ์ ความผูกพันต่อองค์กร ซึ่งอาจได้มาจากการสังเกตและวิเคราะห์ของเราและพนักงานของเราในระหว่างการปฏิบัติงานหรือเข้าร่วมกิจกรรมกับเรา หรือจากการประเมินของบริษัทฯ หรือผู้ที่บริษัทฯ ได้ว่าจ้างให้ดำเนินการ

(11) ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการรายงานหน่วยงานที่กำกับดูแล เช่น กระทรวงแรงงาน สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล  เป็นต้น

(12) ข้อมูลทางการเงิน เช่น ข้อมูลค่าจ้าง เงินเดือน รายได้ ภาษี กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ บัญชีธนาคาร การกู้ยืมเงิน รายการยกเว้นหรือหักลดหย่อนทางภาษี เป็นต้น

(13) ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการประกันสังคม การคุ้มครองแรงงาน สิทธิประโยชน์ สวัสดิการ และผลประโยชน์ที่พนักงานได้รับหรือมีสิทธิที่จะได้รับตามข้อบังคับและระเบียบบริหารงานบุคคลของบริษัทฯ

(14) บันทึกการเข้าออกงานและระยะเวลาในการปฏิบัติงาน การทำงานล่วงเวลา การขาดและลางาน และการลาประเภทอื่นตามระเบียบของบริษัทฯ

(15) ข้อมูลประวัติการปฏิบัติงาน ตำแหน่งงาน การเข้าประชุม การให้ความเห็น ในการที่เป็นกรรมการบริษัท จะมีการเพิ่มเติมข้อมูล ประวัติกรรมการ ทะเบียนกรรมการ

(16) ข้อมูลการใช้งานและการเข้าถึงระบบสารสนเทศ คอมพิวเตอร์ ระบบงาน เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน ระบบโครงข่าย อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ระบบอีเมล เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศของเราและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

(17) ข้อมูลที่รวบรวมจากการมีส่วนร่วมกับเรา เช่น การเข้าร่วมกิจกรรม การตอบแบบสำรวจ การตอบแบบประเมิน

(18) ข้อมูลที่พนักงานเลือกจะแบ่งปันและเปิดเผยผ่านระบบ แอปพลิเคชัน เครื่องมือ แบบสอบถาม แบบประเมิน และเอกสารต่าง ๆ ของเรา

(19) สำเนาเอกสารที่สามารถใช้เพื่อระบุตัวตนของพนักงาน เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง เอกสารอื่น ๆ ที่ออกให้โดยหน่วยงานของรัฐ ทะเบียนราษฎร์

(20) รายละเอียดของผู้ที่บริษัทฯ สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉินที่พนักงานได้ให้ไว้

(21) ข้อมูลเกี่ยวกับยานพาหนะ ใบอนุญาตขับขี่ ความสามารถในการขับขี่ยานพาหนะ และกรณีที่พนักงานขับขี่ยานพาหนะที่เราจัดหาให้ เราจะเก็บข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการขับขี่ยานพาหนะของพนักงานด้วย

(22) ข้อมูลอื่นที่จำเป็นต่อการตรวจสอบความขัดแย้งทางผลประโยชน์ เช่น ข้อมูลข้อมูลการถือหุ้นและความสัมพันธ์กับคู่ธุรกิจ

(23) ข้อมูลเกี่ยวกับอุบัติเหตุ ทั้งในกรณีที่พนักงานประสบอุบัติเหตุในเวลางานหรืออันเนื่องมาจากการปฏิบัติงาน และอุบัติเหตุอื่น ๆ

(24) ข้อมูลอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการปฏิบัติตามสัญญาจ้างแรงงาน การดูแลสิทธิประโยชน์สวัสดิการ การวิเคราะห์และการบริหารงานของเรา การดูแลพนักงานหลังพ้นสภาพการเป็นพนักงาน และการปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ

(25) ข้อมูลที่เกี่ยวกับการร้องเรียน การร้องทุกข์ การสอบสวน การลงโทษทางวินัย

2.2  ข้อมูลส่วนบุคคลแบบอ่อนไหว

บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแบบอ่อนไหวของพนักงานเพื่อใช้งานตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ ได้แก่

(1) ข้อมูลสุขภาพ เช่น น้ำหนัก ส่วนสูง อันปรากฎอยู่ในรายงานทางการแพทย์  ใบรับรองแพทย์ หรือเอกสารอื่น เช่นผลการตรวจร่างกาย ข้อมูลโรคประจำตัว ข้อมูลโรคตาบอดสี  ข้อมูลการแพ้อาหาร ข้อมูลการแพ้ยา ประวัติการรักษาพยาบาล ประวัติการจ่ายยา ใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล เพื่อการคุ้มครองแรงงานและการจัดให้มีสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลสำหรับพนักงาน การประเมินความสามารถในการทำงานของพนักงาน รวมถึงการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพของพนักงานเพื่อการบริหารจัดการที่เหมาะสมอื่น ๆ

(2) ข้อมูลพันธุกรรม เช่น หมู่โลหิต

(4) ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติอาชญากรรม เพื่อพิจารณาความเหมาะสมในการปฏิบัติงานและรักษาประโยชน์อันชอบธรรมของบริษัทฯ หรือของบุคคลอื่น ซึ่งเป็นไปตามระเบียบของบริษัทฯ   ซึ่งจะเก็บจากการหลักฐานที่พนักงานนำมาแสดงหรือหรือพนักงานยินยอมให้ตรวจสอบจากหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย โดยเราจะจัดให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลดังกล่าวตามที่กฎหมายกำหนด

(5) ข้อมูลความเชื่อในลัทธิศาสนา ปรัชญา  ข้อมูลเชื้อชาติ และข้อมูลความพิการ เพื่อประกอบการจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวก กิจกรรม และสวัสดิการที่เหมาะสมกับพนักงาน รวมถึงเพื่อใช้ในการบริหารจัดการด้านการดูแลพนักงานอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรมตามหลักสิทธิมนุษยชน

ในกรณีที่จำเป็น เราจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแบบอ่อนไหวของพนักงาน และบุคคลที่เกี่ยวข้องโดยได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากพนักงานหรือและบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น และ    บริษัทฯ จะใช้ความพยายามอย่างที่สุดในการจัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เพียงพอสำหรับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลแบบอ่อนไหวของพนักงานและบุคคลที่เกี่ยวข้อง

  1. วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายสำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการดำเนินการทั้งหลายตามวัตถุประสงค์ของบริษัทฯ ที่เกี่ยวข้องกับ กิจกรรมการบริหารทรัพยากรบุคคล โดยบริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลด้วยเหตุผล  ซึ่งอาจจะอาศัยฐานใดฐานหนึ่งหรือหลายฐานประกอบกันก็ได้ ดังนี้

3.1 ฐานสัญญา (Contract) เพื่อให้บริษัทฯ ปฏิบัติตามสัญญาจ้างระหว่างบริษัทฯ กับพนักงาน หรือตามคำร้องขอของพนักงานภายใต้หลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด โดยดำเนินการอื่นใดเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้บริการตามสัญญา เช่น การจัดทำเงินเดือนพนักงาน การบริหารจัดการสวัสดิการ การทำประกันภัยของพนักงานและครอบครัว เป็นต้น ซึ่ง    บริษัทฯ อาจทำการประมวลผลเอง/หรือประมวลผลร่วมกับบุคคลภายนอก

3.2 ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interests) เพื่อให้บริษัทฯ บริหารจัดการทรัพยากรบุคคล ตรวจสอบ จัดทำ รายงาน ดูแลรักษาระบบความปลอดภัยรวมถึงจัดการความเสี่ยง อันเป็นประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ เช่น การบันทึกภาพ CCTV การจัดการข้อร้องเรียน การสำรวจความผูกพันของพนักงานที่มีต่อองค์กร การบริหารความเสี่ยง เป็นต้น

3.3 ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation)  บริษัทฯ อาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานไปประมวลผลเพื่อดำเนินการตามกระบวนการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับพนักงาน ให้กับหน่วยงานตามกฎหมาย เช่น กรมสรรพากร สำนักงานประกันสังคม กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เป็นต้น

3.4 ฐานความยินยอม (Consent) หรือความยินยอมโดยชัดแจ้ง (Explicit Consent) บริษัทฯ จะขอความยินยอมจากพนักงานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ในการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลภายในบริษัทฯ การพิจารณารับสมัคร คัดเลือก บรรจุเป็นพนักงาน เป็นต้น

บริษัทฯ จะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจะเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้เท่านั้น ในบางกรณี    บริษัทฯ อาจพิจารณาว่าสามารถประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์อื่นที่เกี่ยวข้องและไม่ขัดหรือนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์เดิม แต่ในกรณีที่บริษัทฯ จำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลด้วยวัตถุประสงค์อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์เดิม บริษัทฯ จะขอความยินยอมใหม่เพื่อการใช้ข้อมูลตามวัตถุประสงค์ใหม่นั้น

  1.  การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ อาจส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานสำหรับการบริหารจัดการการศึกษาดูงาน การฝึกอบรมหรือการเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเรากับองค์กรอื่น  ให้แก่บุคคลภายนอกเท่าที่จำเป็นเพื่อการประมวลผลข้อมูลตามหน้าที่ความรับผิดชอบตามสัญญาหรือตามกฎหมาย หรือตามที่ได้รับความยินยอมจากพนักงาน โดยบริษัทฯ อาจส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน ไปยังบุคคลภายนอก ดังต่อไปนี้

4.1 หน่วยงานภายนอกเพื่อดำเนินการตามกระบวนการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับพนักงาน เช่น การจัดทำเงินเดือนหรือภาษี ประกันสังคม ประกันชีวิต-สุขภาพ โดยส่งหรือโอนข้อมูลแก่กรมสรรพากร สำนักงานประกันสังคม กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน หรือสถาบันการเงินต่างๆ ที่มีข้อตกลงดำเนินการร่วมกัน เป็นต้น

4.2 หน่วยงานกำกับดูแล หน่วยงานของรัฐบาล

4.3 เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามสัญญาหรือตามกฎหมายของบริษัทฯ หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

4.4 บริษัทฯ อาจส่งข้อมูลของพนักงานไปจัดเก็บยังต่างประเทศ (Cloud) โดยประเทศนั้นต้องได้รับการวินิจฉัยจากคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลว่ามีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอหรือมีมาตรการคุ้มครองข้อมูล

  1. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

5.1 บริษัทฯ จะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานและบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องในระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามประเภทข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละแบบ เว้นแต่กฎหมายจะอนุญาตให้มีระยะเวลาการเก็บรักษาที่นานขึ้น ในกรณีที่ไม่สามารถระบุระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลได้ชัดเจน เราจะเก็บรักษาข้อมูลไว้ตามระยะเวลาที่อาจคาดหมายได้ตามมาตรฐานของการเก็บรวบรวม (เช่น อายุความตามหลักกฎหมายทั่วไปสูงสุดเป็นเวลา 10 ปี)

5.2 บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานไว้ตลอดระยะเวลาที่ท่านเป็นพนักงานของเรา เพื่อปฏิบัติตามสัญญาและตามระยะเวลาที่จำเป็นหลังจากสิ้นสุดการเป็นพนักงานของเราแล้ว

5.3 บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิกครอบครัวหรือบุคคลอื่นที่พนักงานได้ให้ข้อมูลไว้ตามระยะเวลาที่จำเป็นต่อการประมวลผลเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อตอบสนองต่อสิทธิของพนักงานในการได้รับสวัสดิการตามข้อบังคับและระเบียบอันเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของบริษัทฯ

5.4 กรณีที่เราใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานโดยขอความยินยอมจากพนักงาน เราจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจนกว่าพนักงานจะแจ้งขอยกเลิกความยินยอมและเราดำเนินการตามคำขอของพนักงานเสร็จสิ้นแล้ว อย่างไรก็ดีเราจะยังเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานเท่าที่จำเป็นสำหรับบันทึกเป็นประวัติว่าพนักงานเคยยกเลิกความยินยอม เพื่อให้เราสามารถตอบสนองต่อคำขอของพนักงานในอนาคตได้  อนึ่ง  หากพนักงานประสงค์จะถอนความยินยอมในการประมวลผลดังกล่าว สามารถติดต่อบริษัทฯ และแจ้งความประสงค์ได้ตามประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้  และโปรดทราบว่าการถอนความยินยอมอาจส่งผลกระทบต่อพนักงานในการใช้ประโยชน์เกี่ยวกับการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลของบริษัทฯ การพิจารณารับสมัคร คัดเลือก บรรจุ และ/หรือบริการต่างๆ ของบริษัทฯ หรือเพื่อประโยชน์ของพนักงาน จึงควรศึกษาและสอบถามถึงผลกระทบก่อนเพิกถอนความยินยอม

5.5 บริษัทฯ จะจัดให้มีระบบการตรวจสอบเพื่อดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาหรือที่ไม่เกี่ยวข้องหรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น

  1. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทฯ จะเคารพสิทธิของท่านและจะดำเนินการตามกฎหมาย กฎเกณฑ์ หรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลของท่านภายใต้สถานการณ์บางประการ อย่างทันท่วงที โดยท่านมีสิทธิดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังต่อไปนี้

6.1 สิทธิในการขอถอนความยินยอม

ในกรณีที่บริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอาศัยความยินยอมของท่าน ท่านมีสิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอมที่จะให้บริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตลอดเวลา ทั้งนี้ บริษัทฯ อาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไป หากบริษัทฯ สามารถใช้ฐานอื่นในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

6.2 สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิในการขอสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบริษัทฯ

6.3 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และสมบูรณ์

6.4 สิทธิในการขอลบข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิร้องขอให้บริษัทฯ ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ในกรณีที่ไม่มีเหตุผลอันสมควรให้บริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไป โดยท่านสามารถใช้สิทธิในการขอให้บริษัทฯ ลบข้อมูลส่วนบุคคลนี้ควบคู่ไปกับสิทธิในการคัดค้านในข้อถัดไป อย่างไรก็ตาม การใช้สิทธินี้จะต้องไม่เป็นการใช้สิทธิเพื่อขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมด โดยบริษัทฯ จะพิจารณาแต่ละคำขอด้วยความระมัดระวังตามบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

6.5 สิทธิในการคัดค้าน

ท่านมีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯ ประมวลผลภายใต้ฐานผลประโยชน์อันชอบธรรมของบริษัทฯ นอกจากนี้ ท่านยังมีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากบริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด การบันทึกและวิเคราะห์ลักษณะทางจิตวิทยาและพฤติกรรมของบุคคล (Profiling) อันมิใช่แบบทดสอบทางจิตวิทยาสำหรับการทดสอบคุณลักษณะเชิงพฤติกรรมของท่าน

6.6 สิทธิในการขอให้มีการระงับการประมวลผล

ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านชั่วคราว เช่น เมื่อท่านต้องการให้บริษัทฯ แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง หรือเมื่อท่านร้องขอให้บริษัทฯ พิสูจน์เหตุผล หรือฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

6.7 สิทธิในการส่งหรือโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล

ในบางกรณี ท่านสามารถขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่สามารถใช้งานโดยทั่วไปได้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น สิทธิดังกล่าวนี้จะใช้ได้เฉพาะในกรณีของข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านส่งมอบให้แก่บริษัทฯ และการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้กระทำโดยอาศัยความยินยอมของท่าน หรือในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจำเป็นต้องได้รับการประมวลผลเพื่อให้สามารถปฏิบัติตามภาระข้อผูกพันภายใต้สัญญาได้

6.8 สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียน

ท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่ท่านเห็นว่า บริษัทฯ หรือพนักงานของบริษัทฯ หรือผู้ให้บริการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือประกาศอื่น ๆ ที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายฉบับดังกล่าว

ท่านอาจใช้สิทธิข้างตนของท่านได้ตลอดเวลา โดยติดต่อบริษัทฯ ผ่านทางช่องทางการติดต่อตามที่ระบุไว้ในข้อ 8.

บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นต้องขอข้อมูลบางประการจากท่านเพื่อใช้ในการยืนยันตัวตนของท่านและรับรองสิทธิของท่านในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (หรือเพื่อใช้สิทธิอื่นใด) เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการความปลอดภัยที่จะทำให้ท่านมั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะไม่ถูกเปิดเผยต่อบุคคลที่ไม่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว

บริษัทฯ จะใช้ความพยายามในการตอบกลับคำขอที่ถูกต้องตามกฎหมายทั้งหมดภายใน 30 วัน ในบางกรณี บริษัทฯ อาจใช้เวลามากกว่า 30 วันหากคำขอของท่านมีความซับซ้อน หรือท่านยื่นคำขอเข้ามาเป็นจำนวนมากกว่าหนึ่งคำขอ ในกรณีดังกล่าว บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบและจะทำการแจ้งสถานะของคำขอให้ท่านทราบอยู่เสมอ และจะปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับสิทธิของพนักงานในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่พนักงานขอให้บริษัทฯ ลบ ทำลาย กำจัด  ระงับการใช้ชั่วคราว แปลงข้อมูลส่วนบุคคล ในรูปแบบข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ หรือถอนความยินยอม อาจทำให้เกิดข้อจำกัดกับบริษัทฯ ในการดำเนินการตามสัญญาจ้างหรือตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้ ทั้งนี้ การใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้น บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการคิดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องและจำเป็นต่อการเข้าดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลตามที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลร้องขอ

  1. การเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)

เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ อาจมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงในแต่ละคราว โดยบริษัทฯ จะแสดงฉบับที่เป็นปัจจุบันไว้บน เว็บไซต์ของบริษัทฯ

  1. ติดต่อเรา

หากท่านมีคำถาม ข้อสงสัย หรือมีความประสงค์ที่จะใช้สิทธิของท่านที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โปรดติดต่อเราได้ที่

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

2032 อาคารอิตัลไทยทาวเวอร์ ชั้น 5 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ

เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310

E-Mail : dpo@pacifica.co.th

หมายเลขโทรศัพท์ : 02-0349770-97