ประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
(Privacy Notice – Provident Fund)

อธิบายถึงวิธีการที่บริษัท แปซิกา เอเลเมนท์ จำกัด  (ซึ่งต่อไปในประกาศนี้ เรียกว่า “บริษัทฯ” หรือ “เรา” หรือ “ของเรา”) ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานและบุคคลที่เกี่ยวข้องกับพนักงานในเรื่องการบริหารจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพซึ่งท่านได้ให้ข้อมูลไว้กับเรา และเพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่า บริษัทฯ จะให้ความคุ้มครองและปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยสอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ จึงได้กำหนดแบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ท่านทราบรายละเอียดการดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าจะเป็นการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย (ต่อไปเรียกว่า “การประมวลผลข้อมูล” หรือ “การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล”)  ซึ่งอาจเกิดขึ้น ตลอดจนแจ้งให้ท่านทราบถึงสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และช่องทางการติดต่อเรา ดังต่อไปนี้

  1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวม

เราอาจทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านี้ของท่าน ภายใต้วัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

1.1 ข้อมูลเช่น ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด อายุ อายุงาน อัตราค่าจ้าง และข้อมูลเกี่ยวกับการจ้างงานอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการเป็นท่าน

1.2 ข้อมูลที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล์แอดเดรส

1.3 ข้อมูลอัตราเงินสะสม การเลือกนโยบายการลงทุน

1.4 ข้อมูลเกี่ยวกับผู้รับผลประโยชน์ เช่น ชื่อ นามสกุล ความสัมพันธ์ เบอร์โทรศัพท์ ทั้งนี้ ก่อนการให้ข้อมูลกับเรา ให้ท่านแจ้งประกาศส่วนตัวนี้ของเราให้บุคคลดังกล่าวทราบด้วย

1.5 ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการรายงานหน่วยงานที่กำกับดูแล เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

1.6 ข้อมูลทางการเงิน เช่น บัญชีธนาคาร

1.7 ข้อมูลการใช้งานและการเข้าถึงระบบสารสนเทศ คอมพิวเตอร์ ระบบงาน เว็บไซต์ แอปพลิเค-ชัน ระบบโครงข่าย อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ระบบอีเมล์

1.8 ข้อมูลที่พนักงานเลือกจะแบ่งปันและเปิดเผยผ่านระบบ แอปพลิเคชัน เครื่องมือ แบบสอบถาม แบบประเมิน และเอกสารต่าง ๆ ของเรา

1.9 ข้อมูลที่รวบรวมจากการมีส่วนร่วมกับเรา เช่น การเข้าร่วมการประชุม การเข้าร่วมกิจกรรม การตอบแบบสำรวจ การตอบแบบประเมิน รวมทั้ง รูปถ่ายและภาพเคลื่อนไหว

1.10 สำเนาเอกสารที่สามารถใช้เพื่อระบุตัวตนของพนักงาน เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง เอกสารอื่น ๆ ที่ออกให้โดยหน่วยงานของรัฐ ทะเบียนราษฎร์

1.11 ข้อมูลอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการปฏิบัติตามสัญญาและข้อบังคับของเรา และการปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ

ทั้งนี้ หากท่านปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องใช้เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญาหรือเพื่อเข้าทำสัญญาแก่เรา อาจทำให้การปฏิบัติงานตามสัญญาและสิทธิในการเข้าถึงบริการที่เราจัดไว้ ไม่สามารถดำเนินการได้อย่างสมบูรณ์

อนึ่ง เราอาจมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแบบอ่อนไหว (Sensitive Data) ของท่านเพื่อใช้งานตามวัตถุประสงค์ที่เราแจ้งไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ อันได้แก่  ข้อมูลชีวภาพ (Biometric Data) ของท่าน ซึ่งเป็นข้อมูลส่วนบุคคลแบบอ่อนไหว เช่น ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า เพื่อใช้ในการระบุและยืนยันตัวตนของท่าน การป้องกันอาชญากรรม และการรักษาประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเรา หรือของบุคคลอื่น และในกรณีที่จำเป็น เราจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแบบอ่อนไหวของท่าน โดยได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านหรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นตามที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น ทั้งนี้ เราจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการจัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เพียงพอเพื่อปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลแบบอ่อนไหวของท่าน

  1. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

2.1  เราจะมีการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยอาศัยฐานทางกฎหมายต่าง ๆ เพื่อวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้

วัตถุประสงค์ ฐานทางกฎหมาย
เพื่อดำเนินการจัดเก็บประวัติข้อมูลของพนักงานและบุคคลในครอบครัว หรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องที่พน้กงานได้แจ้งไว้ ให้สอดคล้องกับนโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศของเราและกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วย สัญญา (Contractual Basis)

การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation)

เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยภาษีอากร การปฏิบัติตามกฎหมาย                            (Legal Obligation)
เพื่อการรายงานข้อมูลที่เกี่ยวข้องไปยังหน่วยงานที่กำกับดูแล เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) การปฏิบัติตามกฎหมาย               (Legal Obligation)

 

เพื่อการจัดทำทะเบียนท่าน การปฏิบัติตามกฎหมาย               (Legal Obligation)

ประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interest)

เพื่อวัตถุประสงค์ในการติดต่อกับท่านเพื่อวัตถุประสงค์ในการบริหารบัญชีกองทุนของท่าน การปฏิบัติตามกฎหมาย               (Legal Obligation)

ประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interest)

เพื่อการรับผลประโยชน์จากกองทุนเงินทดแทน การปฏิบัติตามกฎหมาย               (Legal Obligation
เพื่อการติดต่อสื่อสารในกรณีจำเป็น หรือเกิดเหตุฉุกเฉิน กับพนักงาน ประโยชน์อันชอบธรรม  (Legitimate Interest)

2.2 บริษัทฯ อาจทำการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลในครอบครัว ของท่านซึ่งท่านได้ให้ข้อมูลไว้ ทั้งนี้ บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลของบุคคลเหล่านั้น โดยอาศัยฐานทางกฎหมายต่าง ๆ ที่สอดคล้องกับที่กฎหมายกำหนด

2.3  ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงาน บุคคลในครอบครัวของพนักงาน รวมถึงบุคคลอื่น ซึ่งได้ให้ข้อมูลไว้กับเรานั้น เราอาศัยฐานทางกฎหมายตามที่ได้แจ้งไว้ก่อนหน้า โดยไม่ได้อาศัยการขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล  แต่ก็อาจมีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในบางรายการเช่น ข้อมูลส่วนบุคคลแบบอ่อนไหว (Sensitive Data) ที่เราจะต้องไปขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น และในกรณีที่ท่านได้ให้ข้อมูลของบุคคลในครอบครัวหรือบุคคลอื่นแก่เรานั้น  ท่านจะต้องรับผิดชอบในการแจ้งให้บุคคลเหล่านั้นทราบถึงประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ และ/หรือดำเนินการขอความยินยอม (หากจำเป็น) ให้เราทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นด้วย

2.4  กรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลที่ บริษัทฯ  เก็บรวบรวมข้างต้นเป็นข้อมูลที่จำเป็นต่อ บริษัทฯ  ในการปฏิบัติตามสัญญาหรือการปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ ที่ใช้บังคับ หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นดังกล่าว บริษัทฯ  อาจไม่สามารถดำเนินการอันเกี่ยวกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้แก่ท่านได้ หรือไม่สามารถบริหารจัดการอื่นใดได้ตามวัตถุประสงค์ของการจ้างงาน หรืออาจมีผลต่อการได้รับสิทธิประโยชน์ สวัสดิการ หรือการจัดการอำนวยความสะดวกให้กับท่าน

  1. ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

2.1 เราจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามประเภทข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท เว้นแต่กฎหมายจะอนุญาตให้มีระยะเวลาการเก็บรักษาที่นานขึ้น ในกรณีที่ไม่สามารถระบุระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลได้ชัดเจน เราจะเก็บรักษาข้อมูลไว้ตามระยะเวลาที่อาจคาดหมายได้ตามมาตรฐานของการเก็บรวบรวม (เช่น อายุความตามกฎหมายทั่วไปสูงสุด 10 ปี)

2.2 เราเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตลอดระยะเวลาที่เป็นท่านของเรา เพื่อปฏิบัติตามสัญญาและข้อบังคับของเรา และตามระยะเวลาที่จำเป็น ทั้งนี้ ไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่สิ้นท่านสภาพ

2.3 เราเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้รับผลประโยชน์ของท่านไว้ตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้

2.4 กรณีที่เราใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยขอความยินยอมจากท่าน เราจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจนกว่าท่านจะแจ้งขอยกเลิกความยินยอมและเราดำเนินการตามคำขอของท่านเสร็จสิ้นแล้ว อย่างไรก็ดีเราจะยังเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นสำหรับบันทึกเป็นประวัติว่าท่านเคยยกเลิกความยินยอม เพื่อให้เราสามารถตอบสนองต่อคำขอของท่านในอนาคตได้

2.5 เราจัดให้มีระบบการตรวจสอบเพื่อดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาหรือที่ไม่เกี่ยวข้องหรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น

บริษัทฯ จะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจะเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้เท่านั้น ในบางกรณีบริษัทฯ อาจพิจารณาว่าสามารถประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์อื่นที่เกี่ยวข้องและไม่ขัดหรือนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์เดิม แต่ในกรณีที่บริษัทฯ จำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลด้วยวัตถุประสงค์อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์เดิม บริษัทฯ จะขอความยินยอมใหม่เพื่อการใช้ข้อมูลตามวัตถุประสงค์ใหม่นั้น

อนึ่ง  หากท่านประสงค์จะถอนความยินยอมในการประมวลผลดังกล่าว สามารถติดต่อบริษัทฯ และแจ้งความประสงค์ได้ตามประกาศนี้  อนึ่ง การถอนความยินยอมอาจส่งผลกระทบต่อพนักงานในการใช้ประโยชน์เกี่ยวกับการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลของบริษัทฯ การพิจารณารับสมัคร คัดเลือก บรรจุ และ/หรือบริการต่างๆ ของบริษัทฯ เพื่อประโยชน์ของพนักงาน จึงควรศึกษาและสอบถามถึงผลกระทบก่อนเพิกถอนความยินยอม

  1. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบุคคลอื่น

3.1 เราเปิดเผยและแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับบุคคลและนิติบุคคลอื่น (“บุคคลอื่น”) เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ เช่น บริษัทจัดการที่เรามอบหมายให้เป็นผู้บริหารกองทุน หรือเป็นนายทะเบียนที่ดูแลและจัดการข้อมูลท่าน ผู้ให้บริการเกี่ยวกับระบบสารสนเทศ สถาบันการเงิน หน่วยงานของรัฐ และบุคคลอื่นที่จำเป็นเพื่อให้เราสามารถดำเนินการตามวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้

3.2 เราจะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลมีมาตรการปกป้องข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบการใช้และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

  1. 4. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านอาจใช้สิทธิต่อไปนี้ ตามกฎหมายและข้อยกเว้นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้

4.1  สิทธิในการเข้าถึงข้อมูล

ท่านมีสิทธิเข้าถึงและขอรับสำเนำของข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่เกี่ยวกับท่าน หรือขอให้บริษัทฯ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่บริษัทฯ ได้มาโดยไม่ได้รับความยินยอม โดยจะต้องส่งคำขอเป็นหนังสือไปยังคณะทำงาน PDPA บริษัทฯ จะดำเนินการกับคำขอของท่านภายใน 30 วันนับจากวันที่บริษัทฯ ได้รับคำขอของท่าน บริษัทฯ  อาจปฏิเสธคำขอของท่านตามสิทธิตามกฎหมายของบริษัทฯ หรือตามคำสั่งศาล และหากการเข้าถึงและคำขอสำเนำข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่เกี่ยวกับท่านอาจกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่น หากบริษัทฯ  ตัดสินว่าต้องปฏิเสธคำขอของท่าน บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบเป็นลายลักษณ์อักษรพร้อมเหตุผล และส่งหนังสือดังกล่าวให้ท่านภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด

4.2  สิทธิในการแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง

ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยเกี่ยวกับท่าน ที่ไม่สมบูรณ์ ไม่ถูกต้อง ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือไม่เป็นปัจจุบัน

4.3  สิทธิในการคัดค้าน

ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดหากเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์เรื่องประโยชน์อันชอบธรรมของบริษัทฯ  และ/หรือ ของบุคคลอื่น บริษัทฯ จะดำเนินการพิจารณาคำขอของท่านโดยเร็วที่สุดทันทีที่ได้รับคำขอ บริษัทฯ อาจปฏิเสธคำขอของท่านหากบริษัทฯ สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญมากกว่าในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด หรือการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยดังกล่าวเป็นไปเพื่อ การก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือปฏิบัติตามกฎหมาย หากบริษัทฯ ตัดสินใจว่าจะปฏิเสธคำขอของท่าน เรา จะแจ้งให้ท่านทราบเป็นลายลักษณ์อักษรพร้อมเหตุผล และจะส่งหนังสือดังกล่าวให้แก่ท่านภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด

4.4  สิทธิในการถอนความยินยอม

ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัทฯ เพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดได้ทุกเมื่อ

4.5  สิทธิในการลบหรือทำลายข้อมูล หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเป็นข้อมูลนิรนาม

ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ตามขอบเขตที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้ เว้นแต่กรณีที่บริษัทฯ อาจต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดตามที่กฎหมายกำหนด เช่น การก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย

4.6  สิทธิในการโอนย้ายข้อมูล

ท่านมีสิทธิที่จะได้รับข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่บริษัทฯ ครอบครองอยู่ ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ และส่งข้อมูลดังกล่าวให้กับผู้ควบคุมข้อมูลอื่น โดยที่ข้อมูลนั้นจะต้องเป็น (ก) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ไว้แก่บริษัทฯ  และ (ข) ข้อมูลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยบนฐานความยินยอมของท่าน

4.7  สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลชั่วคราว

ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดเป็นการชั่วคราวในส่วนที่บริษัทฯ ไม่มีสิทธิเก็บรักษาไว้แล้ว หรือเมื่อท่านจำเป็นต้องใช้ข้อมูลนั้นในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย

4.8  สิทธิในการร้องเรียน

ท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนเกี่ยวกับบริษัทฯ ให้แก่หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องหากบริษัทฯ  ละเมิดหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่บังคับใช้ในประเทศไทย รวมถึงประกาศและข้อบังคับอื่น ๆ

  1. การเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)

เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562  ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้  อาจมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงในแต่ละคราว โดยบริษัทฯ จะแสดงฉบับที่เป็นปัจจุบันไว้บน เว็บไซต์ของบริษัทฯ

  1. ติดต่อเรา

หากท่านมีคำถาม ข้อสงสัย หรือมีความประสงค์ที่จะใช้สิทธิของท่านที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โปรดติดต่อเราได้ที่

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (คุณณัฏฐ์ปภัสร์ โชคอริยรักษา)

2032 อาคารอิตัลไทยทาวเวอร์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ

เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310

E-Mail : dpo@pacifica.co.th

หมายเลขโทรศัพท์ : 02-0349770-97